บทความและที่มา : นิตยสาร Sound Dimension Season 4 Issue 40 July 2015 Cover Record กองบรรณาธิการ
ขอขอบคุณข้อมูลจากบริษัท : Fuzion Far East Ltd (ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย)
DiGiCo (UK) Limited บริษัทผู้ผลิตคอลโซลมิกซ์ระดับโลกจากประเทศอังกฤษ โดยได้รวมเอาการออกแบบ ทักษะในการพัฒนา และความรู้ทางวิศวกรรมดิจิทัล มาช่วยในการสร้างอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยม และประสบความสำเร็จอย่างสูง
บริษัทฯ เริ่มต้นในปี 2002 โดยการเข้าซื้อ Soundtracs ซึ่งก่อตั้งมาในช่วงต้นยุค 80 โดยกลุ่มของ เร็คคอร์ดดิ้งเอ็นจิเนียร์ (Recording Engineer) ที่กำลังเสาะแสวงหาคอนโซลที่ดีกว่าในท้องตลาดในเวลานั้น พวกเขาประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำทางการคิดค้นพัฒนาด้านอุปกรณ์ระบบเสียงในช่วง 2 ทศวรรษ
ในปี 1992 พวกเขาได้พัฒนาเครื่องผสมสัญญาณเสียงชนิดดิจิตอลเครื่องแรก
ในปี 1996 จากโครงการนี้ได้นำไปสู่การผลิตมิกเซอร์ที่ได้รับการกล่าวชมอย่างสูงคือรุ่น Virtua หนึ่งปีหลังจากนั้น มิกเซอร์รุ่น DPC ได้ออกสู่ตลาดก่อน DS3 ตามมาในปี 1998 และ D4 ในปี 2000 ตั้งแต่ปี 2000 สินค้าของบริษัทฯ เป็นสินค้าประเภทดิจิตอล ออดิโอทั้งสิ้น บริษัทฯได้นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาสู่ตลาด เช่น การพัฒนา Sharc DSP ซึ่งมีความเร็วมากขึ้น และยังมีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงขึ้น ณ ขณะนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในตลาด รวมไปถึงเป็นรายแรกที่นำเอาระบบสัมผัสชนิด Multiple TFT LCD เข้ามาใช้ และยังเป็นผู้ริเริ่มนำเอา 96kHz Sample Rate เข้ามาใช้ต่อมาก็เป็นรายแรกที่เอา Multiple Sample Rate มาใช้ในอุปกรณ์ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนที่นำมาใช้สร้างสินค้าตัวแรกของ DiGiCo D5 เป็นมิกเซอร์สำหรับการงานสดซึ่งเป็นการปฏิวัติรูปแบบการทำงาน ทั้งด้านมิกเซอร์และอุปกรณ์อื่นที่ใช้ร่วมกันในระบบ
แบรนด์แห่งมิกเซอร์ระดับโลก DiGiCo ทุกรุ่นผลิตในประเทศอังกฤษ
DiGiCo บริษัทซึ่งก้าวนำคนอื่นๆ อยู่เสมอ จากผลงานของ D5 ที่ประกอบไปด้วยระบบประมวลผลที่ทรงคุณภาพใช้อุปกรณ์จาก Soundtracs และซอฟต์แวร์ แต่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงานกับ Live Sound Mixing ซึ่งเป็นเครื่องแรกในโลก ที่เป็น Open – ended Console System อย่างแท้จริง
DiGiCo ยังคงปรัชญาในการออกแบบของตัวเองมาอย่างมั่นคง ตามที่ได้เห็นสินค้าในรุ่นต่าง ๆ ที่ออกสู่ตลาด และในการใช้ Super FPGA (Field Programmable Gate Array) ในทุกรุ่นของ SD Series รวมเข้าด้วยกันกับเทคโนโลยีใหม่ New Tiger Sharc เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์กับ DiGiCo ด้วย Stealth Digital Processing ทำให้ผลิตภัณฑ์คอนโซลมิกซ์ในรุ่นหลังอย่าง SD Series เป็นระบบดิจิตอลออดิโอที่ทรงคุณภาพที่สุดในตลาด
DiGiCo จึงเป็นมิกเซอร์ที่ได้รับการตอบรับทั้งงานสตูดิโอชั้นนำ งานบรอดคาสติ้งงานติดตั้ง งานประชุมระดับชาติ งานระบบเสียงสนามกีฬาอย่างโอลิมปิกเกมส์ที่ลอนดอน และในงาน Live Sound รวมทั้งคอนเสิร์ตศิลปินระดับโลกไปจนถึง DiGiCo ยังเป็นคอลโซนมิกซ์ในการแสดงของวงซิมโฟนีออร์เคสตราแถวหน้าอีกหลายรายการ
ประสิทธิภาพที่พัฒนาไม่หยุดยั้ง
จาก D5 มาถึง SD Series การพัฒนาในทางเทคโนโลยีของ DiGiCo ยังก้าวรุดหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง กระทั่งใน ปี 2015 DiGiCo ได้ส่งดิจิตอลมิกเซอร์รุ่นใหม่ที่ฉีกรูปแบบออกจาก SD – Series โดยใช้แนวคิดที่มุ่งเน้นให้ผู้บริโภคได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเมื่อตัดสินใจเลือกใช้ดิจิทัลมิกซ์ของ DiGiCo อย่างคุ้มค่าสมราคา แต่ยังเพียบพร้อมไปด้วย ประสิทธิภาพที่ไม่แตกต่างหรืออาจจะมากกว่าดิจิทัลมิกซ์รุ่นอื่น ๆ ที่เคยมีมา
DiGiCo S21
DiGiCo S21 จึงเป็นดิจิตอลมิกซ์ทางเลือกใหม่ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ และยังคงประสิทธิภาพการทำงานไม่แตกต่างไปจากดิจิตอลมิกซ์รุ่นก่อนหน้าอย่าง SD – Series
DiGiCo S21 ยังครบครันด้วยเทคโนโลยี FPGA (Field Programmable Gate Array) และ Tiger Sharc เทคโนโลยีการออกแบบเฉพาะของ DiGiCo ที่ทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อและประมวลผลสัญญาณมีความรวดเร็วขึ้นดังเช่นที่มีในรุ่น SD –Series
DiGiCo S21 มีซ็อคเก็ตสำหรับ Plug In (การ์ด DMI (DiGiCo Multichannel Interface) ถึง 2 ช่อง สามารถถอดเปลี่ยนการ์ด DMI ได้ทั้ง MADI, Dante,AES,Optocore, Wave SoundGrid, Hydra2 เป็นต้น ทำให้สามารถขยายช่องทางสัญญาณได้มากช่องทางและมีความหลากหลายขึ้น
DiGiCo S21 ได้บรรจุรวม UB-MADI อุปกรณ์แปลงสัญญาณสำหรับการบันทึกเสียงสดจากสายสัญญาณ MADI ผ่านพอร์ท USB ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งปกติเมื่อก่อนเป็นอุปกรณ์เสริมที่ผู้ใช้งานต้องหาซื้อเองเพิ่มเติม (สนนราคา UB MADI ตัวละ 5x,xxx บาท) แต่ใน S21 ได้มีการบรรจุ UB MADI 48 Playback/Recording ไว้ในเครื่องโดยไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติม
DiGiCo S21 มีจอมัลติทัชสกรีน (Multi-touch Screen) ขนาด 10 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าจอทัชสกรีนบนคอนโซลมิกซ์ทั่วไปในท้องตลาด ทั้งมีให้เลือกใช้งานถึง 2 จอบนคอร์ดเดียว ทำให้สามารถควบคุมการทำงานได้พร้อมกันถึง 20 แชนแนล หรือสามารถแยกใช้งานจอหนึ่งเป็น Overview ทั้ง AUX,Module หรือ EQ และอีกจอเป็นจอสำหรับปรับแต่งเสียง ทั้งในจอทัชสกรีนทั้งสองจอสามารถควบคุมการทำงานผ่านปลายนิ้วเช่น iPad คือ สามารถกวาดนิ้วลากย้ายเปลี่ยนตำแหน่งแต่ละแชลเนล หรือแต่ละแพลตบนหน้าจอได้อิสระ ทั้งยังสามารถย้ายข้ามไปมาระหว่างสองจอได้
DiGiCo S21 มีปุ่มลูกบิดได้แตกต่างกันหลายสี ด้วยเทคโนโลยี HTL (hidden Til Lit) ที่ซ่อนไฟไว้ตรงวงแหวนส่วนฐานของลูกบิด โดยมีเฉดสีที่แตกต่างผู้ใช้งานที่ทำให้การทำงานในพื้นที่ไม่มีแสงไฟ สามารถแยกแยะได้ว่าลูกบิดใดทำงานในฟังก์ชั่นใดได้ง่ายดาย
ดิจิตอลมิกเซอร์ DiGiCo S21 : Specifications
- 46 busses: 16 x flexi-busses Mono/Stereo (equivalent of 32 DSP busses), Stereo Master (2), Solo busses (2 stereo, 4 total), and 10 x 8 Matrix (8)
- 10 x Control Groups
- 1 x Compressor per channel and buss
- 1 x Gate per channel and buss (switchable to ducker, or compressor with side chain access)
- 16 x assignable 32 band Graphic EQs
- 8 x FX engines (reverbs, delays, w/modulation and enhancer)
- 4 x assignable DiGiTuBes
- 4 x assignable Multiband Comps
- User definable Macros
- An extremely high power headphone amplifier with 1/4 inch and mini jack socket
- 96kHz as standard
- 24 mic line inputs
- 12 analogue outs
- 2 AES I/O (mono)
- Word Clock I/O
- 1 GPI and 1 GPO
- DVI out (for an external monitor)
- 2 DMI Card slots (up to 64 I/O per slot)
- 2 Ethernet connections for Networking
- 2 x 24 segment master/solo meters
- Touch sensitive rotaries with integrated switch & HTL
- 2 x multi-touch screens
คุณสมบัติเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในประสิทธิภาพที่อัดแน่นไว้ใน DiGiCo S21 ที่หากได้สัมผัสใช้งาน ได้มองเห็นราคาท่านจะพบว่า นี่คือ ดิจิทัลมิกเซอร์คุณภาพระดับโลกที่คุ้มค่าแก่การลงทุน
0 Comment